1. การที่ตัวการและตัวแทนจะต้องรับต่อบุคคลภายนอกหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาจากอะไร
ก. พิจารณาจากการกระทำและการใช้อำนาจของตัวแทน
ข. พิจารณาจากสัญญาตัวแทน
ค. พิจารณาจากความสุจริตของตัวแทน
ง. พิจารณาจากการรู้ข้อเท็จจริงของบุคคลภายนอก
จ. พิจารณาจากความเสียหายของบุคคลภายนอก
2. กรณีใดดังต่อไปนี้ที่ตัวการไม่ต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอก เมื่อตัวแทนทำเกินขอบอำนาจ
ก. ตัวแทนทำเกินขอบอำนาจโดยเห็นแก่อามิสสินจ้างที่บุคคลภายนอกมอบให้
ข. ตัวแทนทำเกินขอบอำนาจโดยที่บุคคลภายนอกก็ทราบถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ดี
ค. ตัวแทนทำเกินขอบอำนาจโดยปกปิดความจริงกับตัวการ
ง. ตัวแทนทำเกินขอบอำนาจโดยบุคคลภายนอกให้สัตยาบันแก่การกระทำนั้น
จ. ตัวแทนผู้นั้นเป็นตัวแทนช่วง
3. ตัวแทนจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกโดยลำพังตนเองในกรณีใดดังต่อไปนี้
ก. เมื่อตัวการตายหรือตดเป็นคนไร้ความสามารถ
ข. เมื่อตัวแทนตั้งตัวแทนช่วง โดยไม่บอกให้ตัวการทราบว่า ตัวแทนช่วงนั้นไม่เหมาะสมแก่หน้าที่
ค. เมื่อตัวการอยู่ต่างประเทศ และมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ แต่เฉพาะกรณีที่เป็นการทำสัญญาเท่านั้น
ง. เมื่อตัวแทนกระทำละเมิดต่อบุคคลภายนอก
จ. เมื่อตัวแทนรับบำเหน็จพิเศษจากตัวการ
4. นายดำเป็นตัวแทนนายเขียวในการค้าขายรายหนึ่งตามข้อตกลงที่นายดำกับนายเขียวนั้น นายดำมีอำนาจออกเช็คแทนนายเขียวได้ ต่อมานายดำได้ออกเช็คให้นายแดงไป โดยนายดำมิได้เขียนกำกับไว้ในเช็คว่าตนออกเช็คในนามของนายเขียวเช่นนี้นาดำจะต้องรับผิดชอบต่อนายแดงในเช็คฉบับดังกล่าวนี้หรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. ไม่ต้องรับผิดชอบเพราะเป็นตัวแทน
ข. ต้องรับผิดชอบต่อนายแดงแต่ไล่เบี้ยเอากับนายเขียวได้
ค. ต้องรับผิดชอบเพราะมิได้เขียวแถลงไว้ว่าออกเช็คแทนใคร
ง. ต้องรับผิดในทุกกรณี
จ. ข้อ ก. และ ข้อ ข. ถูก
5. นายฉลาดอ้างกับนายทึบว่า ตนเป็นตัวแทนของนายสม ได้รับมอบให้ทำหน้าที่ขายม้าแข่งของนายสมชื่อ “ดอลลี่” ได้ในราคา 2 แสนบาท นายสมรู้เรื่องการอวดอ้างนี้แล้วก็ทำเฉยเสียไม่ว่ากล่าวอะไร นายทึบหลงเชื่อว่านายฉลาดเป็นตัวแทนนายสมจริง จึงซื้อม้าตัวดังกล่าวจากนายฉลาดเช่นนี้ นายสมจะต้องรับผิดต่อนายทึบในสัญญาซื้อขายที่นายฉลาดทำไว้ในนามของนายสมหรือไม่ เพราะเหตุใด
ก. ไม่ต้องรับผิด เพราะนายฉลาดมิได้เป็นตัวแทนนายสม
ข. ต้องรับผิด เพราะเป็นกรณีตัวแทนเชิด
ค. ไม่ต้องรับผิด เพราะนายทึบมิได้แจ้งให้นายสมทราบความจริงก่อนเข้าทำสัญญา
ง. ต้องรับผิด เพราะนายสมได้ประโยชน์จากสัญญาที่นายฉลาดทำไว้กับนายทึบ
จ. ต้องรับผิด เพราะเป็นกรณีนายหน้า
6. กรณีที่ตัวแทนทำละเมิดต่อบุคคลภายนอกนั้นตัวการจะต้องร่วมรับผิดกับตัวแทนต่อบุคคลภายนอกในกรณีใดต่อไปนี้
ก. การละเมิดนั้น ตัวแทนกระทำไปขณะปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนตามที่ตัวการมอบหมาย
ข. การละเมิดนั้น ตัวแทนกระทำไปโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
ค. การละเมิดนั้น ตัวการสั่งให้ตัวแทนกระทำ
ง. การละเมิดนั้น ตัวแทนกระทำโดยเปิดเผยชื่อตัวการให้ทราบ
จ. เมื่อตัวการมิได้จ่ายบำเหน็จให้ตัวแทน
7. กรณีใดดังต่อไปนี้ เป็นกรณีที่สัญญาตัวแทนระงับลงโดยผลของกฎหมาย
ก. เมื่อตัวแทนบอกเลิกการเป็นตัวแทน
ข. เมื่อตัวการถอนตัวแทน
ค. เมื่อตัวการหรือตัวแทนตาย
ง. เมื่อตัวการปฏิเสธที่จะให้บำเหน็จแก่ตัวแทน
จ. เมื่อสัญญาเป็นโมฆียะ
8. การที่สัญญาตัวแทนระงับลงนั้นตัวการหรือตัวแทนจะสามารถแยกเหตุดังกล่าวต่อสู้กับบุคคลภายนอกได้ในกรณีใดดังต่อไปนี้
ก. เมื่อบุคคลภายนอกกระทำการไม่สุจริตและมิได้เสียค่าตอบแทน
ข. เมื่อการที่บุคคลภายนอกไม่ทราบว่าสัญญาระงับลงแล้วนั้น เกิดจากความประมาทเลินเล่อของตนเอง
ค. เมื่อตัวแทนกระทำการโดยสุจริตโดยมิทราบว่าสัญญาตัวแทนระงับลงแล้ว
ง. เมื่อเป็นเหตุสุดวิสัย
จ. ข้อ ก. และข้อ ข. ถูก
9. คู่สัญญาตัวแทนจะต้องรับผิดต่ออีกฝ่ายในกรณีเกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากการบอกเลิกสัญญาในกรณีใดดังต่อไปนี้
ก. เมื่อบอกเลิกสัญญาในเวลาที่ไม่สะดวกแก่อีกฝ่าย
ข. เมื่อบอกเลิกสัญญา เพราะเหตุที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งละเมิดข้อตกลงตามสัญญา
ค. เมื่อการบอกเลิกสัญญากรำไปโดยมิได้แจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบ
ง. เมื่อเป็นกรณีที่สัญญาตัวแทนไม่มีบำเหน็จ
จ. เมื่อสัญญาเป็นโมฆียะ
10. อายุความในการฟ้องร้องตามสัญญาตัวแทนนั้นในกรณีโดยทั่วๆ ไปมีอายุความกี่ปี
ก. 1 ปี
ข. 2 ปี
ค. 6 ปี
ง. 10 ปี
จ. 20 ปี
เฉลยแบบประเมินผลตนเอง
ก่อนเรียน
1. ก
2. ข
3. ค
4. จ
5. ข
6. ก
7. ค
8. จ
9. ก
10. ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น